ชีวิตคริสเตียนจะต้องเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ เพื่อที่ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยพลังในการดำเนินชีวิตและการรับใช้ “ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์ หรือ แรง กำลังของเรา แต่ด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า”
เบื้องหลังการอดอาหาร อธิษฐาน ตามธรรมบัญญัติในพระคัมภีร์เดิม คนยิวมีวันอดอาหารประจำชาติเพียงวันเดียวคือ “วันลบบาป” คือวันที่ 12 เดือน เจ็ด ( ปลายเดือนกันยายน/ ต้นตุลาคม ) สมัยที่อิสราเอลเป็นเชลยในบาบิโลน ชาวยิวยังอดอาหารในเดือน ห้า และ เดือนที่ เจ็ด เพื่อไว้ทุกข์ให้…
การมาเป็นคริสเตียนไม่ใช่การเปลี่ยนศาสนา แต่เป็นการหันหลังให้กับบาป เพื่อกลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรา
พระเยซูคริสต์ได้ทรงบัญชาผู้ที่เชื่อทุกคน ให้รับบัพติศมาในพระนามพระบิดา พระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ (มธ.28:19) การรับบัพติศมาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้เชื่อจะต้องสนในและศึกษาให้เกิดความเข้าใจถูกต้องและปฏิบัติตาม
The great explorer of the truth, the master-builder of human happiness. No one rejects, dislikes, avoids pleasure itself, because…
การหมดเวรหมดกรรมในความเชื่อทางศาสนาหนึ่ง (ศาสนาเดิมของผู้เขียน) หากเอ่ยถึงคำนี้ “การหมดเวรหมดกรรม” มักจะได้ยินอย่างสม่ำเสมอในเรื่องความเชื่อทางศาสนาหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนผู้เขียนเองก็เชื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เช่น หากเราไม่มีความสุข เช่น ทางครอบครัว ทางธุรกิจ หรือเรื่องอื่นๆ ก็จะยอมรับว่าเป็นเรื่องของเวรกรรมซึ่งมีอยู่ในชาตินี้หรือเมื่อชาติที่แล้วที่เราไปทำให้เจ้ากรรมนายเวรเค้าเดือดร้อนแล้วยังชดใช้ไม่หมด เราจึงต้องทำบางอย่างเช่น การทำทาน ทำบุญ หรืออื่นๆ เพื่อชดใช้ให้กับเจ้ากรรรมนายเวรของเราเอง..เป็นต้น ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าจะชดใช้หมดชาตินี้หรือต้องไปชดใช้ชาติอื่นๆ…
การอธิษฐาน คือ การสนทนากับพระเจ้า เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า การมาเป็นคริสเตียน คือการที่เราหันกลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ผู้ทรงสร้างเราดังเดิม ไม่ใช่การเปลี่ยนศาสนาเรื่องของคริสเตียนจึงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา มิใช่เรื่องของพิธีกรรมและวิธีการปฏิบัติการที่เราจะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้นั้น มีองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่ง คือการสนทนากับพระเจ้า ซึ่งหมายถึงการพูดคุยกับพระเจ้าโดยคำพูดของเราเองหรือเรียกอีกอย่างว่า “การอธิษฐาน” ซึ่งนับเป็นสิทธิพิเศษของคริสเตียนที่สามารถสนทนากับพระเจ้าได้อย่างใกล้ชิด 1. ทำไมเราจึงต้อง “อธิษฐาน หรือสนทนากับพระเจ้า” 1.1 เป็นคำสั่งและพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้เราอธิษฐาน 1ธส.5:17 1.2 คริสเตียนปกติต้องสนทนากับพระเจ้า มธ.6:5-13 เป็นพระดำรัสสอนของพระเยซูเรื่องการอธิษฐาน ในพระคัมภีร์ตอนนี้เริ่มว่า“เมื่อท่านอธิษฐาน” ไม่ได้ใช้คำว่า “ถ้าท่านอธิษฐาน” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการอธิษฐานเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของผู้เชื่อในสมัยนั้น…
“การเชื่อฟัง” เป็นพื้นฐานในชีวิตคริสเตียนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราเห็นตัวอย่างการไม่เชื่อฟังครั้งแรกในโลกของมนุษย์คู่แรก จึงทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของซาตานและความบาป (ปฐก.3) และเห็นถึงตัวอย่างอิทธิพลของการเชื่อฟังของพระเยซูคริสต์ที่ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา (ฟป.2:8) ซึ่งเป็นเหตุให้คนทั่วโลกได้รับพระพรดังนั้น “การเชื่อฟัง” จึงเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่าง การเชื่อฟังพระเจ้านำพระพรและชัยชนะมาสู่ชีวิตของคริสเตียน ถ้ามีแต่ความเชื่อแต่ปราศจากการเชื่อฟังก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้แต่มารก็เชื่อพระเจ้าและกลัวจนตัวสั่น (ยก.2.19) มีคริสเตียนไม่น้อยที่เชื่อพระเจ้าแต่ไม่ยอมจำนนต่อพระองค์ ยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดจากบาป แต่ไม่ยอมรับพระองค์เป็นเจ้าชีวิต คริสเตียนเหล่านั้นยังเป็นเจ้านายเหนือชีวิตตัวเอง ทำตามใจตัวเอง ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ชีวิตจึงไม่เกิดผล มีความสับสน ขาดสันติสุข ขาดพลัง และเป็นหินสดุดของคนเป็นอันมาก ไม่มีสิ่งใดทดแทนการเชื่อฟังได้ พระเจ้าพอพระทัยการเชื่อฟังมากกว่าการถวายเครื่องบูชาใดๆ 1ซมอ.15.22 ดังนั้น การเชื่อฟังพระเจ้าทำให้ทำให้คริสเตียนเจริญก้าวหน้าในชีวิต 1ยน.2.3-4 ผลของการเชื่อฟังเป็นกุญแจสำคัญทำให้คริสเตียนมีชัยชนะ…