พระเจ้าได้ตั้งเราในธรรมชาติให้เกิดในครอบครัวและมีพ่อแม่เป็นผู้ดูแล เมื่อเรามารู้จักพระเจ้า เราก็ได้รับฐานะใหม่ในการเป็น “ลูกของพระเจ้า” และเป็นสมาชิกในครอบครัวในคริสตจักร เราปรารถนามีผู้ดูแลชีวิตเราในทางธรรมชาติอย่างไร เราก็ปรารถนามีผู้ดูแลเราในครอบครัวในคริสตจักรอย่างนั้นเช่นกัน เพราะจำเป็นที่เราต้องถูกฟูมฟักและทะนุถนอมจากผู้ดูแลเรา พระเจ้าจึงมีแผนการอันดีในการตั้งคริสตจักรท้องถิ่นให้เป็นเสมือนครอบครัวฝ่ายวิญญาณของเรา
1. ความหมาย“คริสตจักร”
“คริสตจักร” หมายถึง กลุ่มคนที่กลับใจบังเกิดใหม่ เชื่อวางใจในองค์พระเยซูคริสต์และยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าที่ มาบังเกิดเป็นมนุษย์ ถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ทั้งหลายโดยสละพระชนม์ชีพและพระโลหิตของพระองค์เองเป็นค่าไถ่ชีวิตของมนุษย์ที่เป็นคนบาปให้พ้นจากความบาปนั้นและได้กลับมามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าดังเดิม
เมื่อมีคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์มารวมตัวกันมากขึ้นในที่แห่งเดียวกันใน ชุมชนนั้น ๆ เราเรียกว่า คริสตจักรท้องถิ่น และเมื่อมีคนที่เชื่อเกิดขึ้นมากมายตามชุมชนตามท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วโลก เราเรียกรวมกันว่า คริสตจักรสากล
1.1 คริสตจักรหมายถึง ตัวบุคคล ไม่ใช่ตัวตึกหรืออาคาร (มธ.16:18) พระเยซูทรงเรียกเปโตร (กจ.8:3,ฟป.3:6) เปาโลได้ข่มเหงคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เป็นการชี้ให้เราเห็นว่าคริสตจักร ที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่ตัวตึกหรือตัวอาคารสถานที่ แต่เป็น “บุคคล”ที่มีชีวิตที่เชื่อในพระเยซูคริสต์นั่นเอง
1.2 ความสำคัญของคริสตจักรแท้จริงแล้ว “คริสตจักร” เป็นน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้าที่พระองค์จะทรงโปรดสำแดงพระองค์และ พระวิญญาณของพระองค์ รวมทั้งความรอดที่พระองค์ทรงโปรดประทานให้กับมนุษย์นั้นผ่านทางคริสตจักร อีกทั้งเพื่อเป็นการประกาศถึงชัยชนะและการครอบครองของพระองค์ต่อสิ่งสารพัด ทั้งปวงในโลกนี้ด้วย (อฟ.3:8-10) พระเจ้าทรงสำแดงน้ำพระทัยและความล้ำลึกของพระองค์ผ่านทางคริสตจักร (อฟ.5:23) พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคริสตจักร (อฟ.1:22) พระเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่งทางพระเยซูคริสต์
2. เงื่อนไขเบื้องต้นการเป็นสมาชิกคริสตจักรท้องถิ่น
2.1 การกลับใจใหม่ (กจ.2:38) เปโตรได้กล่าวแก่คนทั้งปวงว่า“จงกลับใจเสียใหม่และรับบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านเสีย” ยน.1:12 พระเยซูกล่าวว่า “แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ก็จะประทานสิทธิ ให้เป็นบุตรของพระเจ้า”ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องผ่านเงื่อนไขแรกนี้คือ “การกลับใจ”
“การกลับใจบังเกิดใหม่” ซึ่ง หมายถึง การหันหลังให้บาป หรือ วิถีชีวิตเดิมที่ห่างไกลและไม่รู้จักพระเจ้า มาได้รับสิทธิของการเป็นลูกของพระเจ้าจึงจะมีสิทธิเข้าเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ ของครอบครัวของพระเจ้าได้ คือ คริสตจักร นั่นเอง
2.2 ยินดีติดตามพระเยซูตลอดชีวิต (มก.8:34)เป็นคำตรัสของพระเยซูที่ให้ความหมายอย่างลึกซึ้งของผู้ที่เหมาะสมเป็นสมาชิกในครอบครัว คือ “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตนเองและรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา”ทั้งนี้ หมายถึง การตัดสินใจแน่วแน่โดยไม่คิดเปลี่ยนใจ แต่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะติดตามพระเยซูคริสต์ตลอดชีวิต ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นก็ยังเชื่อมั่นคงในพระองค์และจะติดตามพระองค์ไป
3. พระพรที่ได้รับ สิ่งที่ได้รับจากการอยู่ในครอบครัวของพระเจ้าหรือคริสตจักรก็ คือ
3.1 ได้รับการดูแลฝ่ายวิญญาณ (ยน.21:15-117) พระเจ้าเปรียบเราเหมือนลูกแกะ ซึ่งไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ จำเป็นต้องมีผู้เลี้ยง ดังนั้นเราจะมีผู้เลี้ยงได้ต่อเมื่อเราผูกพันตัวในครอบครัวฝ่ายวิญญาณ คือ คริสตจักร เพราะที่นี่เองที่ผู้เลี้ยงที่ดีจะคอยดูแลเอาใจใส่พาเราไปในทางที่ถูกต้อง และรับการดูแลอย่างบริบูรณ์ คอยช่วยแนะนำให้รู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
3.2 ได้รับการปกป้องให้ปลอดภัย (1คร.5:5) เราจะไม่ปลอดภัย หากเราไม่ผูกพันตัวอยู่ใน คริสตจักร เพราะทำผิดและใจแข็งกระด้าง ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนั้นจะถูกซาตานทำลาย แสดงว่าชีวิตที่อยู่ใน คริสตจักรเท่านั้นจึงจะปลอดภัยอย่างแท้จริง
3.3 เราจะได้รับการพัฒนาลักษณะชีวิตให้เป็นเหมือนพระเยซู (อฟ.4:13-14) ลักษณะชีวิตของเราจะถูกพัฒนาขึ้นมา ก็ต่อเมื่อเราร่วมผูกพันตัวอยู่ในคริสตจักร และมีความสัมพันธ์อย่างถูกต้องกับพี่น้องคนอื่น ๆ ที่อยู่ในคริสตจักร ซึ่งพระเจ้าใช้พี่น้องในคริสตจักรให้เป็นส่วนหนึ่งที่จะพัฒนาและปรับปรุง ชีวิตของเราซึ่งกันและกันให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์มากขึ้น
3.4 ได้รับการปกป้องให้พ้นจากคำสอนผิด (กจ.20:28-31) การที่เราอยู่ในคริสตจักรและร่วมผูกพันตัวทำให้เราได้รับการสอนอย่างถูกต้อง ในหลักการพระคัมภีร์ จะช่วยให้เราแยกแยะได้ว่า คำสอนใดมาจากพระเจ้า (อฟ:4:14)แต่ถ้าเราไม่ผูกพันตัวกับคริสตจักร เราก็จะไม่ได้รับคำสอนที่ถูกต้อง เป็นเหตุให้เราอาจถูกล่อลวงให้หลงจากคำสอนเท็จที่ดูเหมือนคล้ายคลึงกัน แต่แท้จริงแล้วแตกต่างกันอย่างมากได้
3.5 ได้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับพี่น้อง (1ยน.1:7) ซึ่งเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าได้ประทานให้กับเราผ่านทางพี่น้องในคริสตจักร
ฮบ.10.25 อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว