Home คริสเตียนศึกษา การเชื่อฟังพระเจ้าและผู้นำ

การเชื่อฟังพระเจ้าและผู้นำ

by Abodah Church

“การเชื่อฟัง” เป็นพื้นฐานในชีวิตคริสเตียนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราเห็นตัวอย่างการไม่เชื่อฟังครั้งแรกในโลกของมนุษย์คู่แรก จึงทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของซาตานและความบาป (ปฐก.3) และเห็นถึงตัวอย่างอิทธิพลของการเชื่อฟังของพระเยซูคริสต์ที่ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา (ฟป.2:8) ซึ่งเป็นเหตุให้คนทั่วโลกได้รับพระพรดังนั้น “การเชื่อฟัง” จึงเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่าง

การเชื่อฟังพระเจ้านำพระพรและชัยชนะมาสู่ชีวิตของคริสเตียน ถ้ามีแต่ความเชื่อแต่ปราศจากการเชื่อฟังก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้แต่มารก็เชื่อพระเจ้าและกลัวจนตัวสั่น (ยก.2.19)  มีคริสเตียนไม่น้อยที่เชื่อพระเจ้าแต่ไม่ยอมจำนนต่อพระองค์  ยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดจากบาป แต่ไม่ยอมรับพระองค์เป็นเจ้าชีวิต คริสเตียนเหล่านั้นยังเป็นเจ้านายเหนือชีวิตตัวเอง ทำตามใจตัวเอง ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ชีวิตจึงไม่เกิดผล  มีความสับสน ขาดสันติสุข ขาดพลัง และเป็นหินสดุดของคนเป็นอันมาก ไม่มีสิ่งใดทดแทนการเชื่อฟังได้ พระเจ้าพอพระทัยการเชื่อฟังมากกว่าการถวายเครื่องบูชาใดๆ 1ซมอ.15.22 

ดังนั้น การเชื่อฟังพระเจ้าทำให้ทำให้คริสเตียนเจริญก้าวหน้าในชีวิต  1ยน.2.3-4 ผลของการเชื่อฟังเป็นกุญแจสำคัญทำให้คริสเตียนมีชัยชนะ

การเชื่อฟังหมายความว่าอย่างไรคือ ท่าทีและความประพฤติที่แสดงออกว่าตามใจอีกบุคคลหนึ่ง นั่นหมายความว่า คริสเตียนต้องมีท่าทียอมจำนนต่อพระเจ้าด้วยความเต็มใจ และแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมเพื่อสอดคล้องกับการสั่งสอนของพระองค์ในพระคัมภีร์

1.  ทำไมพระเจ้าจึงอยากให้เราเป็นคนเชื่อฟัง?

1.1 ตอบสนองความรักของพระเจ้าด้วยการเชื่อฟัง (1ยน.5:2-4, 1ยน.4.16) เต็มใจไม่เป็นภาระ พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย

1.2 เป็นสวัสดิภาพ ความปลอดภัยและพระพรในทุกๆ ด้านของชีวิต (ฉธบ.7:12-15) เช่น พระพรในครอบครัว การทำงาน ด้านสุขภาพ ทรัพย์สินเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่ผู้ที่เชื่อฟัง และดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระองค์

ตัวอย่าง ใน ปฐก.22:15-18 พระเจ้าอวยพระพรอับราฮัมอย่างมากมาย และให้เป็นพระพรแก่คนทั้งหลายในโลกนี้ ผ่านทางพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม (ยรม.29.1, สภษ.3.1)


2.  การเชื่อฟังพระเจ้าและพระคัมภีร์

การดำเนินชีวิตคริสเตียนตั้งแต่เริ่มกลับใจใหม่ และหันหลังให้กับบาป และดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์นั้น เราต้องดำเนินชีวิตที่เชื่อฟังพระเจ้าและพระวจนะ

2.1 เป็นคำสั่งของพระเจ้าในพระคัมภีร์ (ฉธบ.27:10) พระเจ้าตรัสสั่งให้เราเชื่อฟังพระองค์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่สมัยพันธสัญญาเดิม จนมาถึงสมัยของพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้ามารับสภาพมนุษย์เพื่อตายไถ่บาปเราให้รอดพ้นจากบึงไฟนรก (ลก.22:42) (ฟป.2:8) แม้แต่พระเยซูคริสต์เจ้าเองก็ยังเชื่อฟังพระเจ้าพระบิดาทรงถ่อมพระองค์ลงและยอมถูกตรึงที่ไม้กางเขน เพื่อให้น้ำพระทัยของพระบิดานั้นสำเร็จ (ฉธบ.10.12-13 ยก.1.22)

2.2  พระคัมภีร์สั่งให้เราเชื่อฟังและนบนอบต่อผู้มีสิทธิอำนาจ (รม.13:1) พระเจ้าทรงโปรดตรัสสั่งเรามาตั้งแต่บรรพบุรุษของเราแล้วว่า ให้เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ ซึ่งคนอิสราเอลเป็นตัวอย่างให้กับเราในการเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าได้เป็นอย่างดี เช่น 

อพย.34:10-28 พระเจ้าสั่งให้เชื่อฟังในพระบัญญัติของพระองค์ การดำเนินชีวิตคริสเตียนด้วยความเชื่อ จะต้องสำแดงออกมาเป็นการประพฤติ ด้วยว่าเราเชื่อฟังพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์

ยก.2:17 การเชื่อฟังที่ไม่ประพฤติตามนั้นก็ไร้ผล

ยก.2:22 การเชื่อฟังนั้นจะบริบูรณ์ด้วยการประพฤติ


3. การเชื่อฟังผู้นำ (ฮบ.13:17)

พระเจ้าทรงตรัสสั่งไว้ในพระวจนะของพระองค์ ให้เราเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของผู้นำที่พระองค์ทรงแต่งตั้งไว้ในคริสตจักร ที่ดำเนินชีวิตตามพระวจนะพระเจ้า เพื่อช่วยดูแล  ปกป้อง  รักษาจิตวิญญาณ สั่งสอน และนำทิศทางแก่เรา ให้ไปถึงเป้าหมายที่พระองค์ได้กำหนดไว้ และผู้นำเหล่านี้จะต้องเสนอรายงานต่อพระเจ้า การเชื่อฟังผู้นำก็เท่ากับว่าเราเชื่อฟังพระเจ้าด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราควรมีท่าทีปฏิบัติต่อผู้นำอย่างไร?

3.1 ท่าทีเชื่อฟังผู้นำที่พระเจ้าทรงแต่งตั้ง (รม.13:1-4)

3.2 ท่าทีเชื่อฟังที่ออกมาจากจิตใจภายในอย่างแท้จริงต่อผู้นำ (1ปต.2:18)

3.3 ท่าทีเชื่อฟังคำตักเตือนสั่งสอนของผู้นำในทุกกรณีอย่างไม่มีเงื่อนไข (ฮบ.13:17) แม้เราจะไม่เห็นด้วย เว้นแต่ผู้นำสอนผิดจากหลักการพระคัมภีร์ เราไม่ต้องเชื่อฟังแต่ยังต้องนบนอบไม่ก้าวร้าว


4. การเชื่อฟังผู้มีสิทธิอำนาจเหนือเรา

4.1 เคารพและเชื่อฟังบิดา มารดา (คส.3:20) หรือผู้ที่มีสิทธิอำนาจในการปกครองดูแลเรา

4.2 เคารพเชื่อฟังกฎหมายและกฎเกณฑ์ของรัฐบาล เจ้าบ้านผ่านเมืองทุกระดับ (1ปต.2:13-14) (ทต.3:1)

4.3 เชื่อฟังคนที่เป็นนายจ้าง หรือหัวหน้าของเรา (คส.3:22)

4.4 เชื่อฟังศิษยาภิบาล ผู้นำทุกระดับ ในคริสตจักร (1ธส.5:12-13)


5.  พระพรที่เราจะได้รับเมื่อเราเชื่อฟัง

การเชื่อฟังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตคริสเตียน เพราะสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์จะเป็นจริงในชีวิตของเราหรือไม่   ก็ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังพระเจ้า และพระวจนะของพระองค์ และผู้นำที่พระองค์แต่งตั้งไว้  นั่นย่อมหมายถึงว่าเมื่อเราทำตามที่พระองค์สอน พระพรที่มาจากพระเจ้านั้นจะมีมากมายในชีวิตของเราดังตัวอย่างในพระคัมภีร์ เช่น

5.1 ช่วยพัฒนานิสัยของเราเอง (อฟ.4:11-14) (1ปต.1:13-14, 22)

5.2 ได้รับการเพิ่มพูนสติปัญญา (สดด.19:7) (สภษ.9:10)

5.3 ได้รับการคุ้มกันและปกคลุมฝ่ายวิญญาณ (ฮบ.13:17)

5.4 ได้รับคำแนะนำและทิศทางแก่ชีวิตของเรา (สดด.32:8)

5.5 ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน (ฉธบ.7:15)

5.6 พระเจ้าจะอวยพรในชีวิตครอบครัว กิจการงาน เกิดความรุ่งเรืองในชีวิต (ฉธบ.7:12-14, 28:2-6, 11-12) (ปฐก.22:15-18)

5.7 พระเจ้าจะทรงโปรดยกชูชีวิตของเราขึ้น (ฉธบ.28:1, 13)


Related Posts

Leave a Comment

Are you sure want to unlock this post?
Unlock left : 0
Are you sure want to cancel subscription?
-
00:00
00:00
Update Required Flash plugin
-
00:00
00:00